คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๑๖/๒๕๖๒
ผู้ตายและ ส. ภริยาถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกัน
ถือได้ว่าเป็นการตายในเหตุภยันตรายร่วมกันและเป็นการพ้นวิสัยที่จะกำหนดได้ว่าคนไหนตายก่อนหลัง
ต้องถือว่าผู้ตาย และ ส. ถึงแก่ความตายพร้อมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา
๑๗ ส. จึงไม่ใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย
แม้ผู้คัดค้านที่ ๑ ซึ่งเป็นมารดาของ
ส. มิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของ ส. เนื่องจาก ส.
ภริยาของผู้ตายถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตายพร้อมกับผู้ตาย แต่ ส.
เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายมีสินสมรสปะปนกันอยู่ในลักษณะกรรมสิทธิ์รวม
ผู้คัดค้านที่ ๑ ย่อมมีสิทธิในมรดกในส่วนสินสมรสของ ส. ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์มรดกของผู้ตายบางส่วน
จึงนับว่าผู้คัดค้านที่ ๑ มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านที่
๑ กับผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกันหรือตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกเฉพาะส่วน
ผู้คัดค้านที่ ๒ ซึ่งเป็นบุตรนอกกฎหมายของผู้ตายกับ
อ. ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส และผู้ตายยอมรับว่าผู้คัดค้านที่ ๒
เป็นบุตร ได้ให้การอุปการะส่งเสียเล่าเรียน ให้ใช้นามสกุล แนะนำ และแสดงออกต่อญาติพี่น้องและบุคคลภายนอกว่าผู้คัดค้านที่
๒ เป็นบุตร ผู้คัดค้านที่ ๒ จึงอยู่ในฐานะบุตรนอกกฎหมายที่ผู้ตายซึ่งเป็นบิดาให้การรับรองแล้ว
ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๗
มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายตามมาตรา ๑๖๒๐ และมาตรา ๑๖๒๙ (๑)
ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ตามมาตรา ๑๗๑๓
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๗
ในกรณีบุคคลหลายคนตายในเหตุภยันตรายร่วมกัน ถ้าเป็นการพันวิสัยที่จะกำหนดได้ว่าคนไหนตายก่อนหลัง
ให้ถือว่าตายพร้อมกัน
มาตรา ๑๖๒๗
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน
เหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๑๗๑๓
ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้
ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑)
เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป
หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(๒)
เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ
หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
(๓) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใด
ๆ
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งตามข้อกำหนดพินัยกรรม และถ้าไม่มีข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
0 Comments
แสดงความคิดเห็น