คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๓๓๑/๒๕๖๓ ( ประชุมใหญ่ )
การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒ ลักษณะ ๑๙ มาตรา ๑๕๗/๑, ๑๖๐ ทวิ, ๑๖๐ ตรี มิได้กล่าวถึงการขับขี่ยานพาหนะชนิดหนึ่งชนิดใดแล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะที่เกี่ยวข้อง
หรือชนิดนั้นไว้โดยเฉพาะ แต่เป็นการกล่าวถึงการขับขี่ยานพาหนะที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดแล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดไปยุ่งเกี่ยวควบคุมหรือขับขี่ยานพาหนะทั้งหมดที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบก
ดังนี้ ศาลต้องสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกกรณี
ไม่ว่าใบอนุญาตขับขี่นั้น จะเกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ผู้กระทำความผิดขับขี่ในขณะกระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม
แม้จำเลยมีใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกันกับรถที่จำเลยขับในขณะกระทำความผิด
ศาลก็มีอำนาจสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลยได้
ตามฎีกานี้
จำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ในขณะเมาสุรา
พระราชบัญญัติจราจรทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒
มาตรา ๑๖๐ ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ (๒) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบ
อนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึง
หนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงหกปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสอง
หมื่นบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าสองปี
หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
และ ให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
0 Comments
แสดงความคิดเห็น