คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๘๗๔/๒๕๖๒
โจทก์บรรยายฟ้องถึงสภาพแห่งข้อหาว่า
จำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินไปจากธนาคาร น. และจำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินเป็นประกันโดยมีข้อตกลงว่า
หากเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระยังขาดอยู่เท่าใด
จำเลยยอมใช้เงินที่ขาดนั้นแก่ธนาคารจนครบ ซึ่งเป็นข้อตกลงยกเว้นบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๓ และมีคำขอท้ายคำฟ้องว่า หากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยและทรัพย์จำนอง
พร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินออกขายตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบถ้วน
แสดงว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ศาลบังคับทั้งอายัดและยึดทรัพย์สินของจำเลยและทรัพย์จำนองชำระหนี้แก่โจทก์จนครบหาก
จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา คำฟ้องโจทก์มีข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีและคำขอบังคับแล้ว
ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๐ วรรคสอง
และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๒ และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค
พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๗ โจทก์มีสิทธิบังคับตามคำขอบังคับโดยขายทอดตลาดทรัพย์จำนองก่อน
หากได้เงินไม่พอชำระหนี้โจทก์มีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยต่อไปจนครบ
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๖๖๑๒/๒๕๕๙(ประชุมใหญ่) แม้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่
๑ ชำระหนี้กู้ยืมอันเป็นหนี้ประธานก่อนก็ตาม แต่โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องด้วยว่า หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์
และบังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองได้จนกว่าโจทก์จะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน
แสดงว่าโจทก์ประสงค์จะบังคับคดีเอาจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์จำนอง
จึงเป็นการฟ้องบังคับจำนองด้วย เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าสัญญาจำนองไม่มีข้อตกลงกันว่า
หากโจทก์ผู้รับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้แก่ผู้รับจำนองได้เงินสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของผู้จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาใช้หนี้แก่ผู้รับจำนองโดยครบถ้วนอันเป็นการตกลงยกเว้น
ป.พ.พ. มาตรา ๗๓๓ ไว้ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์
หากได้เงินมาไม่พอชำระหนี้ โจทก์ไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วนได้
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๗๓๓ ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี
หรือถ้าเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดี เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๔๒ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลที่ชี้ขาดคดีต้องตัดสินตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อ
แต่ห้ามมิให้พิพากษาหรือทำคำสั่งให้สิ่งใด ๆ เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
เว้นแต่
(๕) ในคดีที่อาจยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างได้นั้น เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะยกข้อเหล่านั้นขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปก็ได้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น