คำพิพากษาฎีกาที่ ๙๒๗/๒๕๖๓
ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามขั้นตอนของกฎหมายจนมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้โจทก์ตามฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว
ซึ่งไม่ปรากฏว่ากระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้นตั้งแต่ชั้นรับฟ้องจนมีคำพิพากษา มีข้อผิดพลาดหรือผิดหลงหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร
ผลแห่งคำพิพากษาย่อมผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๔๕ จำเลยต้องรับผลแห่งคำพิพากษานั้น ข้ออ้างตามคำร้องของจำเลยที่ยื่นภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเกือบ
๖ ปี ที่ว่ามีคนร้ายปลอมสวมรูปจำเลยในบัตรประจำตัวประชาชนของจำเลยแล้วนำไปเป็นเอกสารประกอบการทำสัญญาสินเชื่อเงินสดอันเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องจำเลยผิดตัว
ไม่ใช่ข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงในการดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้น
แต่เป็นข้อกล่าวอ้างที่จำเลยต้องยกขึ้นให้การต่อสู้เพื่อไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
กรณีไม่มีเหตุให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ
เพิ่มเติม
การดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบในชั้นอุทธรณ์
ต้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบต่อศาลอุทธรณ์
ฎีกาที่ ๒๗๘๐/๒๕๖๒ โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่อ้างว่า
ต้องเสียหายจากการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบของศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ต้องยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค
๕ ซึ่งเป็นศาลอันมูลเหตุกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้เกิดขึ้น เพื่อให้เพิกถอนการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค
๕ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ผิดระเบียบเพื่อพิจารณาข้ออ้างของโจทก์ต่อไป มิใช่ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา
เพราะข้อผิดระเบียบดังกล่าวมิใช่ข้อผิดระเบียบที่เกิดขึ้นในกระบวนพิจารณาของศาลฎีกา
กรณีไม่ต้องด้วย ป.วิ.พ. มาตรา ๒๗ ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบของศาลล่างได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความแพ่ง
มาตรา ๒๗
ในกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม
หรือที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการเขียน
และการยื่นหรือการส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่น ๆ หรือในการพิจารณาคดี
การพิจารณาพยานหลักฐาน หรือการบังคับคดี เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายที่เสียหายเนื่องจากการที่มิได้ปฏิบัติเช่นว่านั้นยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง
ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ศาลเห็นสมควร
ข้อค้านเรื่องผิดระเบียบนั้น
คู่ความฝ่ายที่เสียหายอาจยกขึ้นกล่าวได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา
แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น
แต่ทั้งนี้คู่ความฝ่ายนั้นต้องมิได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้ว
หรือต้องมิได้ให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้น ๆ
ถ้าศาลสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบใด
ๆ อันมิใช่เรื่องที่คู่ความละเลยไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาเรื่องนั้นภายในระยะเวลาซึ่งกฎหมายหรือศาลกำหนดไว้
เพียงเท่านี้ไม่เป็นการตัดสิทธิคู่ความฝ่ายนั้น ในอันที่จะดำเนินกระบวนพิจารณานั้น
ๆ ใหม่ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายบังคับ
0 Comments
แสดงความคิดเห็น