คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗๖/๒๕๖๔
โจทก์ที่ ๒ ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ ๒ อันเป็นคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ วรรคสอง โจทก์ที่
๒ มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ตามมาตรา
๑๘ วรรคห้า ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ ๒ วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ โดยไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งคำสั่งให้โจทก์ที่ ๒ ทราบ โจทก์ที่ ๒ ทราบคำสั่งเนื่องจากมาขอคัดถ่ายเอกสารในสำนวนคดีวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องเมื่อวันที่
๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒ เป็นการยื่นภายในกำหนด ๑ เดือน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๘, ๒๒๗ และ ๒๒๙ แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค ๑ มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ ๒ จึงไม่ชอบ
โจทก์ที่ ๒ ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ ๒ ในส่วนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ ๒
ไม่ได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล และรับคำฟ้อง ในส่วนทุนทรัพย์ที่โจทก์ที่ ๒ ได้รับอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ ๒ ทั้งหมด เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๑๘ ให้ศาลมีอำนาจที่จะตรวจคำคู่ความที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของศาลได้รับไว้เพื่อยื่นต่อศาล
หรือส่งให้แก่คู่ความ หรือบุคคลใด ๆ
ถ้าศาลเห็นว่าคำคู่ความที่ได้ยื่นไว้ดังกล่าวแล้วนั้น
อ่านไม่ออกหรืออ่านไม่เข้าใจหรือเขียนฟุ่มเฟือยเกินไป หรือไม่มีรายการ
ไม่มีลายมือชื่อ ไม่แนบเอกสารต่าง ๆ ตามที่กฎหมายต้องการ หรือมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วน
ศาลจะมีคำสั่งให้คืนคำคู่ความนั้นไปให้ทำมาใหม่ หรือแก้ไขเพิ่มเติม
หรือชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วน ภายในระยะเวลาและกำหนดเงื่อนไขใด
ๆ ตลอดจนเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้ ถ้ามิได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลในระยะเวลาหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ก็ให้มีคำสั่งไม่รับคำคู่ความนั้น
(วรรคห้า) คำสั่งของศาลที่ไม่รับหรือให้คืนคำคู่ความตามมาตรานี้
ให้อุทธรณ์และฎีกาได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๗, ๒๒๘ และ
๒๔๗
0 Comments
แสดงความคิดเห็น