คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๕๐/๒๕๖๔
บัตรเครดิตถือเป็น “บัตรอิเล็กทรอนิกส์”
ตามบทนิยามแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๑๔) (ก) เนื่องจากผู้ออกได้ออกเอกสารคือบัตรเครดิตให้แก่ผู้มีสิทธิใช้โดยมีการบันทึกข้อมูลในชิปการ์ดและเทปแม่เหล็ก
ซึ่งเป็นวิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน
ส่วนข้อมูลบัตรเครดิต ได้แก่ หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือ และวันหมดอายุ เมื่อปรากฏอยู่บนบัตรเครดิตซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย
ถือว่าเป็นกรณีที่มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดให้ จึงไม่เป็น “บัตร
อิเล็กทรอนิกส์” ตามบทนิยามแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๑๔) (ข)
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๑๔)
เป็นเพียงบทนิยามว่า สิ่งใดเป็น “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” แต่มิได้ระบุเกี่ยวกับวิธีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ไว้โดยเฉพาะ
การวินิจฉัยว่าการกระทำใดเป็นการใช้
บัตรอิเล็กทรอนิกส์ต้องพิจารณาว่าการกระทำนั้นเป็นวิธีใช้โดยทั่วไปของบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดนั้นหรือไม่
โดยไม่จำกัดว่าหากเป็น “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๑ (๑๔) (ก) แล้ว การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์จะต้องเป็นการใช้เอกสารหรือวัตถุอื่นใดที่ผู้ออกได้ออกให้โดยตรงเท่านั้นดังจะเห็นได้จาก
“บัตรอิเล็กทรอนิกส์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๑๔) (ข) ที่ระบุว่า “...มีวิธีการใช้ทำนองเดียวกับ (ก)” ทั้งที่ไม่มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดไว้ให้
ดังนั้น บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๑๔) (ก)
ย่อมสามารถใช้เฉพาะข้อมูลหรือรหัสได้
การวินิจฉัยว่าจำเลยใช้บัตรเครดิตของโจทก์โดยมิชอบหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการกระทำของจำเลยเป็นวิธีใช้บัตรเครดิตโดยทั่วไปหรือไม่
ปัจจุบันการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้า
ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดผ่านทางเว็บไซต์โดยผู้รับชำระไม่ต้องเห็นบัตรเครดิต
เป็นวิธีใช้บัตรเครดิตโดยทั่วไปวิธีหนึ่ง การที่จำเลยนำข้อมูลบัตรเครดิตของโจทก์ไปใช้ชำระค่าบริการที่พักของจำเลยผ่านเว็บไซต์
อโกด้า ดอทคอม ย่อมเป็นการใช้บัตรเครดิตของโจทก์แล้ว จำเลยมีความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ออกให้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสดโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๙/๕ ประกอบมาตรา ๒๖๙/๗
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้
(๑๔) “บัตรอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า
(ก)
เอกสารหรือวัตถุอื่นใดไม่ว่าจะมีรูปลักษณะใดที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้
ซึ่งจะระบุชื่อหรือไม่ก็ตาม
โดยบันทึกข้อมูลหรือรหัสไว้ด้วยการประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสงหรือวิธีการทางแม่เหล็กให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร
ตัวเลข รหัส หมายเลขบัตร หรือสัญลักษณ์อื่นใด
ทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
(ข) ข้อมูล รหัส
หมายเลขบัญชี หมายเลขชุดทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องมือทางตัวเลขใด ๆ
ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ โดยมิได้มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดให้
แต่มีวิธีการใช้ในทำนองเดียวกับ (ก) หรือ
(ค) สิ่งอื่นใดที่ใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
0 Comments
แสดงความคิดเห็น