คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๑๔๓/๒๕๖๓
ก.
เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินพิพาท ทั้งแปลงให้แก่จำเลยผู้เดียวโดยถูกต้องตามแบบของกฎหมายด้วยความประสงค์อันแท้จริงของ
ก. เอง โดยจำเลยมิได้กระทำการยักย้าย
หรือปิดบังทรัพย์มรดกทั้งมิได้ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้ ก. ทำพินัยกรรมเกี่ยวกับทรัพย์มรดก
แม้ ก. จะทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินเกินกว่าส่วนของตนให้แก่จำเลย แต่เป็นเรื่องที่ ก.
กระทำไปโดยขาดความรู้ความเข้าใจในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ ก.
และ ส. ได้มาในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เมื่อจำเลยมิได้กระทำการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๖๐๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๖๐๖ (๔) และจำเลยยังเป็นผู้รับพินัยกรรม ซึ่ง ก. ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้เฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง
หรือทรัพย์สินที่ระบุตัวทรัพย์ได้ชัดเจนแน่นอน ได้แก่สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินพิพาทตามมาตรา
๑๖๐๕ วรรคสอง ดังนี้จำเลยไม่อยู่ในสถานะจัดมิให้รับมรดกตามฟ้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา
๑๖๐๕ ทายาทคนใดยักย้าย หรือปิดบังทรัพย์มรดกเท่าส่วนที่ตนจะได้หรือมากกว่านั้นโดยฉ้อฉลหรือรู้อยู่ว่า
ตนทำให้เสื่อมประโยชน์ของทายาทคนอื่น ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเลย
แต่ถ้าได้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดกน้อยกว่าส่วนที่ตนจะได้ ทายาทคนนั้นต้องถูกกำจัดมิให้ได้มรดกเฉพาะส่วนที่ได้ยักย้ายหรือปิดบังไว้นั้น
มาตรานี้มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับพินัยกรรม
ซึ่งผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้เฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง
ในอันที่จะได้รับทรัพย์สินนั้น
มาตรา
๑๖๐๖ บุคคลดังต่อไปนี้ต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ไม่สมควร
คือ
(๔)
ผู้ที่ฉ้อฉลหรือข่มขู่ให้เจ้ามรดกทำ หรือเพิกถอน
หรือเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมแต่บางส่วนหรือทั้งหมดซึ่งเกี่ยวกับทรัพย์มรดก
หรือไม่ให้กระทำการดังกล่าวนั้น
0 Comments
แสดงความคิดเห็น