คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๑๖๙/๒๕๖๔
เดิมที่ดินพิพาท ส.
เป็นผู้ยึดถือครอบครองทำประโยชน์ ส. จึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๖๗ และมีสิทธิขายที่ดินพิพาทและมอบการครอบครองแก่โจทก์ได้ อ.
ซึ่งไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินพิพาทย่อมไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท
การที่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓) มีชื่อ อ.
เป็นผู้มีสิทธิครองเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา
๑๓๗๓ ส่วนความเป็นจริงผู้ใดจะมีสิทธิครอบครองนั้น
จะต้องพิจารณาว่าผู้ใดเข้ายึดถือครอบครอง
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๑๒๙๕/๒๕๖๐
แม้โจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอันจะทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๖๗
ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ส่วนฝ่ายจำเลยเป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท ก็ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานของกฎหมายตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๗๓ ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองเช่นกัน แต่มาตรา ๑๓๖๗
เป็นเพียงบทบัญญัติทั่วไป เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีโฉนดที่ดินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ในทะเบียนที่ดิน ซึ่งกฎหมายต้องการให้แสดงออกซึ่งกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนยิ่งกว่าการครอบครอง จึงต้องบังคับตามมาตรา ๑๓๗๓
ภาระการพิสูจน์จึงตกแก่โจทก์
ฎีกาที่ ๙๔๕๖/๒๕๕๘ ตาม ป.พ.พ. มาตรา
๑๓๗๓ ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ในทะเบียนที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า
บุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง และตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๒๗
ก็บัญญัติว่า เอกสารมหาชนซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรอง หรือสำเนาอันรับรองถูกต้องแห่งเอกสารนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสาร ที่ดินตามโฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดทะเบียนไว้ในทะเบียนที่ดิน และโฉนดที่ดินกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นเอกสารมหาชน จึงได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เมื่อโจทก์ทั้งสองกล่าวอ้างและนำสืบว่า โฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามฟ้องออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องมีภาระพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานตามข้อกฎหมายดังกล่าว
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๗๓ ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดิน
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
0 Comments
แสดงความคิดเห็น