คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๗๒๕/๒๕๖๔
ที่ดินที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านอยู่ในเขตพื้นที่เตรียมการสงวนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกรมป่าไม้อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
การเข้ายึดถือครอบครองย่อมไม่ได้สิทธิโดยชอบด้วย กฎหมาย ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใดๆ
ใช้ยันรัฐได้
คงได้แต่ยกการยึดถือครอบครองก่อนยันราษฎรด้วยกันเองที่เข้ามารบกวนการยึดถือครอบครองและจะหวงกันผู้อื่นได้ก็แต่ขณะที่ตนยังยึดถือครอบครองอยู่เท่านั้น
แต่สภาพบ้านของผู้เสียหายมีเพียงผนังและกรอบประตูหน้าต่าง ไม่มีหลังคา
ลักษณะรกเรื้อมีวัชพืชขึ้นปกคลุม แสดงว่าไม่มีผู้ใดครอบครองมาเป็นเวลานานแล้ว
การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปปักเสาปูนขึงลวดหนาม ปิดล้อมบริเวณหน้าบ้านและหลังบ้าน
ไม่อาจถือได้ว่าเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหาย
การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันบุกรุกตามฟ้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๖๒
ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆ
อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๓๖๕ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๓๖๒ มาตรา ๓๖๓ หรือมาตรา ๓๖๔ ได้กระทำ
(๑)
โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
(๒) โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
หรือ
(๓)
ในเวลากลางคืน
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
0 Comments
แสดงความคิดเห็น