คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๔๘/๒๕๖๖
ความจริงไม่มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันเกิดเหตุรวมทั้งจําเลยก็ไม่อาจได้รับเลือกเป็นประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ตามข้อบังคับของบริษัท
เพราะจําเลยมิได้เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่มีสิทธิจะได้รับเลือกจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เป็นประธานที่ประชุมในกรณีที่ไม่มีตัวประธานกรรมการหรือประธานกรรมการมิได้มาเข้าร่วมประชุม
การประชุมตามวาระและข้อมติตามวาระการประชุม จึงเป็นความเท็จ
แต่เมื่อไม่มีข้อบังคับของบริษัท ตราไว้เป็นอย่างอื่น
ต้องนําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในส่วนที่เกี่ยวด้วยบริษัทจํากัดมาใช้บังคับตามข้อบังคับของบริษัท ดังนั้น
ในการประชุมจําเลยซึ่งเป็นกรรมการคนหนึ่งของบริษัทมีอำนาจหน้าที่ต้องจัดให้จดบันทึกรายงานการประชุม
และข้อมติทั้งหมดของที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงไว้โดยถูกต้องตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๐๗ วรรคหนึ่ง การที่จําเลยจัดทำรายงานการประชุมเป็นการจัดทำตามอำนาจหน้าที่ของจําเลย
แม้ไม่มีการประชุมผู้ถือหุ้นและวาระการประชุมและข้อมติจะเป็นความเท็จรายงานการประชุมก็ไม่เป็นเอกสารปลอม
คงเป็นรายงานการประชุมที่จําเลยทำขึ้นเป็นเท็จ
จําเลยลงลายมือชื่อในรายงานการประชุมรับรองรายงานการประชุมถูกต้องเป็นการกระทำในฐานะกรรมการบริษัทที่มีหน้าที่จัดทำรายงานการประชุม
ส่วนการลงลายมือชื่ออีกแห่งหนึ่งจําเลยลงลายมือชื่อในฐานะประธานที่ประชุม
แม้จําเลยไม่อาจเป็นประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ แต่การลงลายมือชื่อของผู้เป็นประธานแห่งการประชุมไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของประธานที่ประชุมที่ต้องจัดทำหรือรับรองรายงานการประชุม
แต่เมื่อจําเลยลงลายมือชื่อของตนเองว่าเป็นประธานที่ประชุม
ซึ่งเป็นความเท็จเท่านั้น จึงไม่เป็นการทำปลอมรายงานการประชุม
การกระทำของจําเลยไม่เป็นการปลอมเอกสารและไม่อาจเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิได้
ย่อมไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๑๐๔๖ - ๑๐๔๗/๒๕๒๖
เอกสารทั้งสองฉบับที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกันทำขึ้นเป็นเอกสารของจำเลยซึ่งจำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ได้ลงลายมือชื่อของตนเอง
มิได้ปลอมลายมือชื่อของผู้ใดและมิใช่เป็นการปลอมหรือเลียนแบบเอกสารอันแท้จริงของผู้ใด
แม้ข้อความในเอกสารจะไม่ตรงต่อความจริงหรือเป็นเท็จ
การกระทำของจำเลยทั้งสี่ก็ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือปลอมเอกสารสิทธิตาม
ป.อ.มาตรา ๒๖๔ และ ๒๖๕ ดังนั้น ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
๒๖๘ จึงไม่เกิดขึ้น
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๖๔
ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ
หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม
หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด
ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม
หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น
ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน
ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
มาตรา ๒๖๘
ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา ๒๖๔ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ๒๖๖
หรือมาตรา ๒๖๗ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น
หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว
ประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๒๐๗
กรรมการต้องจัดให้จดบันทึกรายงานการประชุม
และข้อมติทั้งหมดของที่ประชุมผู้ถือหุ้นและของที่ประชุมกรรมการลงไว้ในสมุดโดยถูกต้อง
สมุดนี้ให้เก็บรักษาไว้ ณ สำนักงานที่ได้จดทะเบียนของบริษัท
บันทึกเช่นนั้นอย่างหนึ่งอย่างใด เมื่อได้ลงลายมือชื่อของผู้เป็นประธานแห่งการประชุมซึ่งได้ลงมติ
หรือซึ่งได้ดำเนินการงานประชุมก็ดี
หรือได้ลงลายมือชื่อของผู้เป็นประธานแห่งการประชุมถัดจากครั้งนั้นมาก็ดี
ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักฐานอันถูกต้องแห่งข้อความที่ได้จดบันทึกลงในสมุดนั้น
ๆ และให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการลงมติและการดำเนินของที่ประชุมอันได้จดบันทึกไว้นั้นได้เป็นไปโดยชอบ
ผู้ถือหุ้นคนใดจะขอตรวจเอกสารดังกล่าวมาข้างต้นในเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างเวลาทำการงานก็ได้
0 Comments
แสดงความคิดเห็น