คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๕๒/๒๕๖๖
แม้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์
จนกระทั่งมีการนำคำสั่งของศาลไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสิทธิให้ผู้ร้องมีชื่อในโฉนดที่ดินพิพาทแล้ว
แต่ผู้ร้องอาจนําคําพิพากษาหรือคำสั่งศาลที่วินิจฉัยถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไปใช้ยันแก่บุคคลภายนอกได้
ทั้งยังทำให้ผู้คัดค้านสิ้นสิทธิในการบังคับคดีแก่ที่ดินพิพาทที่ยึดไว้นั้นได้เพราะที่ดินพิพาทไม่ใช่ของลูกหนี้ของผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวเนื่องด้วยการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชอบที่จะยื่นคําร้องขอสอดเข้ามาในคดีได้โดยยื่นคําร้องต่อศาลที่มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง
คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๕๗ (๑)
กรมสรรพากรผู้คัดค้านยึดที่ดินพิพาทเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ค่าภาษีอากรค้างตามประมวลรัษฎากร
มาตรา ๑๒ ก่อนที่ผู้ร้องจะครอบครองที่ดินพิพาทครบ ๑๐ ปี
กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยสงบด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเพราะสิทธิของผู้ร้องถูกกระทบโดยการยึดทรัพย์ของผู้คัดค้านที่อาศัยอำนาจตามมาตรา
๑๒ แม้ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทติดต่อกันเกินกว่า ๑๐ ปี
ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒
เมื่อผู้คัดค้านไม่ได้ร้องคัดค้านเข้ามาในคดีในศาลชั้นต้น
ถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นบุคคลภายนอก
คำสั่งศาลชั้นต้นที่แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทไม่ผูกพันผู้คัดค้าน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง (๒) ผู้คัดค้าน
สามารถพิสูจน์ได้ว่าที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของ ร.
ผู้ค้างภาษีอากรแก่ผู้คัดค้านได้
เพิ่มเติม
ฎีกาที่ ๗๒๑/๒๕๖๕
ผู้ร้องสอดอาศัยอำนาจตาม ป.รัษฎากร มาตรา ๑๒ ยึดที่ดินพิพาทเพื่อขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้ค่าภาษีอากรค้างก่อนที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์
เมื่อมีคำสั่งยึดแล้ว บุคคลใดจะทำลาย ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น
หรือโอนไปให้แก่บุคคลอื่นซึ่งทรัพย์สินที่ถูกยึดดังกล่าวไม่ได้ตามมาตรา ๑๒ ทวิ
สิทธิของผู้ร้องสอดดังกล่าวจึงถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่น ๆ
ซึ่งบุคคลภายนอกอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมาย
การที่ผู้ร้องนำคำสั่งศาลที่ให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องตาม ป.พ.พ.
มาตรา ๑๓๘๒ ไปขอเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเป็นชื่อของผู้ร้อง
ถือได้ว่าเป็นการดำเนินการในชั้นบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
หากเจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการให้ ย่อมเกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องสอด
ผู้ร้องสอดจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งและถูกโต้แย้งสิทธิที่จะร้องขอเข้ามาในชั้นบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งได้ตาม
ป.วิ.พ. มาตรา ๕๗ (๑)
แม้ว่าผู้ร้องนำคำสั่งศาลไปดำเนินการจดทะเบียนที่ดินให้ผู้ร้องถือกรรมสิทธิ์แล้ว
แต่ก็เป็นการดำเนินการหลังจากที่ผู้ร้องสอดยึดที่ดินพิพาทไว้แล้ว
อันมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การจดทะเบียนที่ดินนั้นชอบหรือไม่ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับคำร้องขอของผู้ร้องสอดไว้เพื่อดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยถึงข้อโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องสอดในชั้นบังคับคดีตามรูปคดีต่อไป
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา ๑๓๘๒ บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี
ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้
ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
0 Comments
แสดงความคิดเห็น