คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๙๗๙/๒๕๖๖ (ประชุมใหญ่)


               จําเลยมีพฤติการณ์ลักลอบจําหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน ๔,๐๑๘ เม็ด คํานวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๗๐.๘๒๓ กรัม และจําเลยพยายามจําหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าว ๑,๙๙๖ เม็ด คํานวณ เป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๓๕.๑๘๐ กรัม ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ หากมีการจําหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางออกไป ย่อมทำให้เกิดการแพร่กระจายไปยังผู้เสพหลายคนโดยสภาพเข้าลักษณะเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ดังนี้ การกระทำของจําเลยเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง (๒) มิใช่เป็นเพียงความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในภายหลัง แต่ยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๔๕ วรรคสาม (๒)

               ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑ ได้นิยามคําว่าจําหน่ายให้หมายความรวมถึงมีไว้เพื่อจําหน่ายด้วย ดังนั้น การมีเมทแอมเฟตามีน ๑ ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายและพยายามจําหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงเป็นความผิดอย่างเดียวกันคือ การจําหน่ายเมทแอมเฟตามีน

 

ประมวลกฎหมายยาเสพติด

               มาตรา ๑๔๕ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๐  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งล้านห้าแสนบาท

               ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำ ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท

               (๑) การกระทำเพื่อการค้า 

               (๒) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 

               (๓) การจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี

               (๔) การจำหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่ เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ

               (๕) การกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย

               (๖) การกระทำโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ

               ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองเป็นการ กระทำดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงห้าล้านบาท หรือประหารชีวิต

               (๑) การกระทำโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม

               (๒) การทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป