คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๗๘๓/๒๕๖๖
โจทก์ฟ้องว่า
จําเลยเช่าที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑)
บางส่วนของโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชําระค่าเช่า ขอให้บังคับจําเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดินพิพาท และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
จําเลยให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณะอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบล
จําเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์โดยสำคัญผิด เช่นนี้ไม่มีข้อต่อสู้เรื่องกรรมสิทธิ์
เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคํานวณเป็นราคาเงินได้
และเป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์ แม้โจทก์จะกล่าวอ้างเรียก
ค่าเช่าเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท
แต่ศาลชั้นต้นกำหนดค่าเสียหายให้โจทก์ เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท
ถือได้ว่าที่ดินพิพาทอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคําฟ้องไม่เกินเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท เป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ
ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคําฟ้องไม่เกินเดือนละ
๔,๐๐๐ บาท
คดีต้องห้ามมิให้จําเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๒๔ วรรคสอง ตอนท้าย
จําเลยยื่นคําร้องมาพร้อมกับอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ขอให้ศาลชั้นต้นรับรองอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคําร้องว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญมีเหตุอันควรอุทธรณ์
จึงรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง” และมีคำสั่งในอุทธรณ์ในวันเดียวกันว่า
“จําเลยยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต รับอุทธรณ์จําเลย
...” เป็นการรับรองว่าอุทธรณ์ของจำเลยมีเหตุอันควรอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ถือว่าเป็นการรับรองอุทธรณ์โดยชัดแจ้งตามมาตรา ๒๒๔ วรรคหนึ่ง ตอนท้าย แล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๒๔
ในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
เว้นแต่ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีนั้นในศาลชั้นต้นได้ทำความเห็นแย้งไว้หรือได้รับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ได้
หรือถ้าไม่มีความเห็นแย้งหรือคำรับรองเช่นว่านี้ต้องได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์เป็นหนังสือจากอธิบดีผู้พิพากษาชั้นต้นหรืออธิบดีผู้พิพากษาภาคผู้มีอำนาจ
แล้วแต่กรณี
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งมิได้ให้บังคับในคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัวและคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
เว้นแต่ในคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ
ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสี่พันบาทหรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
การขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาในคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ได้
ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นคำร้องถึงผู้พิพากษานั้นพร้อมกับคำฟ้องอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น
เมื่อศาลได้รับคำร้องเช่นว่านั้น
ให้ศาลส่งคำร้องพร้อมด้วยสำนวนความไปยังผู้พิพากษาดังกล่าวเพื่อพิจารณารับรอง
0 Comments
แสดงความคิดเห็น