การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ส่งประกาศขายทอดตลาดให้ผู้รับจำนองทราย เป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่

คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๘๕๓/๒๕๖๖ ตอนที่ ๑๐ หน้า ๒๔๑๒

               เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ส่งประกาศขายทอดตลาดที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทให้แก่ผู้รับจํานองได้ทราบก่อนการขายทอดตลาดทรัพย์ เป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ในเรื่องสำคัญและเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๓๑ วรรคสองและวรรคสาม ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องมีความระมัดระวัง เพราะเป็นหน้าที่ของตนตามกฎหมาย แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำไปโดยปราศจากความระมัดระวัง ย่อมเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ความรับผิดในกรณีเช่นนี้จึงตกแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๕ วรรคหนึ่ง   อย่างไรก็ตามเรื่องความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่เป็นกรณีที่ต้องอยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เนื่องจากมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ บัญญัติว่าบรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับใด ๆ ในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทนดังนั้น ในการพิจารณาพิพากษาคดีนี้จึงต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ กล่าวคือ มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ บัญญัติว่าหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องหน่วยงานของรัฐดังกล่าวได้โดยตรง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้...กรณีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า ข้อ ๔ ของหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน มีผลยกเว้นความรับผิดทางละเมิดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือไม่ เพียงใด เนื่องจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๕ วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่ และพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๕ ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้ว

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

                มาตรา ๒๘๕ ความรับผิดทางละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต่อ ลูกหนี้ตามคําพิพากษาหรือต่อบุคคลภายนอกเพื่อความเสียหายที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่อง กับการยึด อายัด หรือขายทรัพย์สินโดยมิชอบหรือเกินกว่าที่จําเป็นแก่การบังคับคดี หรือ การบังคับคดีโดยมิชอบในกรณีอื่น ย่อมไม่ตกแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี แต่ตกอยู่แก่ เจ้าหนี้ตามคําพิพากษา เว้นแต่ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายนี้

               ในกรณีที่ความรับผิดตกแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามวรรคหนึ่ง และเป็นเรื่อง ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ การใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่หรือตามกฎหมายอื่นไม่ว่าโดยบุคคลใด ให้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม

               ถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องอันจะต้องยึดหรืออายัด หรือไม่ขายทรัพย์สิน หรือไม่ดำเนินการบังคับคดีในกรณีอื่น หรือไม่กระทำการ ดังกล่าวภายในเวลาอันควรโดยจงใจหรือปราศจากความระมัดระวังหรือโดยสมรู้เป็นใจ กับลูกหนี้ตามคําพิพากษาเป็นเหตุให้เจ้าหนี้ตามคําพิพากษาได้รับความเสียหาย ให้นําความในวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม