คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๔๒/๒๕๖๗ 

               ถ้อยคําอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๔ วรรคท้าย ต้องไม่ใช่ถ้อยคําที่เป็นส่วนหนึ่งของคํารับสารภาพของจําเลย ถ้อยคําในบันทึกการจับกุมที่ว่าจําเลยรับว่าเป็นเจ้าของเมทแอมเฟตามีนและอาวุธปืนของกลางร่วมกับ ก. โดยมีรายละเอียดว่าซื้อมาจากบุคคลอื่นเพื่อนํามาจําหน่ายต่อซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคํารับสารภาพ เช่นนี้ไม่สามารถรับฟังคํารับสารภาพของจําเลยเป็นพยานหลักฐานได้ ส่วนคํารับสารภาพชั้นจับกุมของ ก. แม้จะไม่ห้ามรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีของจําเลย แต่ก็ถือเป็นพยานบอกเล่าและซัดทอดซึ่งมีเงื่อนไขให้รับฟังและมีน้ำหนักน้อย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๖/๓ และ ๒๒๗/๑ 


  • ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๘๔ วรรคท้าย บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังคำรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นพยานหลักฐานในการลงโทษจำเลย แต่เป็นการห้ามมิให้รับฟังเฉพาะคำรับสารภาพของจำเลยเป็นพยานหลักฐานเพื่อลงโทษจำเลยนั้นเอง มิได้ห้ามรับฟังถ้อยคำในชั้นจับกุมของจำเลยอื่นด้วยแต่อย่างใด ดังนั้น ศาลย่อมนำถ้อยคำในชั้นจับกุมของจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ กับพวกที่พาดพิงว่า จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๖ ร่วมกระทำความผิดด้วย มารับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้ และคำให้การในชั้นสอบสวนถือเป็นพยานบอกเล่าและพยานซัดทอด แต่กฎหมายมิได้ห้ามรับฟังเสียทีเดียว หากมีเหตุผลอันหนักแน่น มีพฤติการณ์พิเศษแห่งคดี หรือมีพยานประกอบอื่นมาสนับสนุน ก็สามารถรับฟังลงโทษจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๖ ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๖/๓ วรรคสอง (๑) ประกอบมาตรา ๒๒๗/๑(ฎีกาที่ ๔๒๘/๒๕๖๕)
  • แม้ ป.วิ.อ. มาตรา ๘๔ ววรรคท้าย ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๓ จะห้ามมิให้รับฟังคำรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นพยานหลักฐาน แต่กฎหมายห้ามมิให้รับฟังถ้อยคำรับสารภาพของผู้ถูกจับเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกจับเท่านั้น แต่มิได้ห้ามรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของผู้ร่วมกระทำความผิดอื่น จึงรับฟังบันทึกการจับกุม บันทึกถ้อยคำ และภาพถ่ายการชี้ตัว ประกอบคำเบิกความของพยานโจทก์ผู้จับกุมเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้(ฎีกาที่ ๖๗๖๖/๒๕๖๑), ป.วิ.อ. มาตรา ๘๔ วรรคสี่ บัญญัติเพื่อมุ่งประสงค์ที่จะห้ามมิให้นำคำรับสารภาพในชั้นจับกุมของจำเลยที่ ๑ มารับฟังประกอบการพิจารณาลงโทษจำเลยที่ ๑ เท่านั้น คำให้การในชั้นจับกุมของจำเลยที่ ๑ ในส่วนที่พาดพิงถึงจำเลยที่ ๒ ว่าร่วมกระทำความผิด แม้เป็นพยานบอกเล่าและเป็นคำซัดทอดเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ ได้รับประโยชน์จากการซัดทอดถึงจำเลยที่ ๒ ก็รับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์ส่งอ้างเป็นพยานตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๖ โดยชอบ(ฎีกาที่ ๑๓๑๙๙/๒๕๕๗)

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

               มาตรา ๘๔ วรรคท้ายถ้อยคำใด ๆ ที่ผู้ถูกจับให้ไว้ต่อเจ้าพนักงานผู้จับ หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในชั้นจับกุมหรือรับมอบตัวผู้ถูกจับ ถ้าถ้อยคำนั้นเป็นคำรับสารภาพของผู้ถูกจับว่าตนได้กระทำความผิดห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐาน แต่ถ้าเป็นถ้อยคำอื่น จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้ถูกจับได้ต่อเมื่อได้มีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือตามมาตรา ๘๓ วรรคสอง แก่ผู้ถูกจับแล้วแต่กรณี